เคล็ดลับเลือกซื้อสายแลนอินเตอร์เน็ต เหมือนมืออาชีพมาเอง

ทำไมเราจึงควรเลือกซื้อสายแลนอินเตอร์เน็ตให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกซื้อสายแลนอินเตอร์เน็ต นอกจากเรื่องของคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีแล้ว การคำนึงถึงความเหมาะสมกับการใช้งานด้วยก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเครือข่ายภายในมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่เกิดปัญหาความล่าช้าหรือสัญญาณขาด ๆ หาย ๆ แล้ว ยังมีประโยชน์ในแง่มุมอื่นอีกหลายประการ

ในบทความนี้ Ontech จะพาคุณมาเจาะลึกเคล็ดลับการเลือกสายแลนแบบมืออาชีพ เพื่อช่วยให้คุณสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างราบรื่นและมีเสถียรภาพมากขึ้นกัน

เคล็ดลับการเลือกสายแลนอินเตอร์เน็ตแบบมืออาชีพ

เลือกสายแลนให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ประการแรกของการเลือกซื้อสายแลนให้ใช้งานดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด ก็คือการพิจารณาถึงการใช้งานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในบ้านทั่วไป หรือการทำงานจากที่บ้านที่ต้องการใช้เน็ตความเร็วสูง การใช้สำหรับสำนักงานขนาดกลางและใหญ่ ไปจนถึงการใช้งานสำหรับ Data Center ของหน่วยงานใหญ่ ๆ

เนื่องจากลักษณะการใช้งานของคุณจะมีผลต่อการเลือกประเภทของสายแลนอินเตอร์เน็ตและความเร็วของอินเตอร์เน็ตด้วย เช่น 

• การใช้งานทั่วไปในบ้าน เช่น การใช้อินเตอร์เบราว์เซอร์ต่าง ๆ สตรีมมิ่งหรือเล่นเกมออนไลน์ การเลือกใช้สายแลนแบบ Cat5e ความเร็วสูงสุด 1 Gbps ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและการสตรีมวิดีโอระดับ HD แล้ว
  
  
• ใช้งานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น งานกราฟิก หรือการถ่ายโอนไฟล์ใหญ่ แนะนำให้ใช้สายแลนแบบ Cat6 ที่ความยาวไม่เกิน 55 เมตร หรือCat6a ที่ความยาวไม่เกิน 100 เมตร
  
  
•  การใช้งานสำหรับ Data Center ของหน่วยงานใหญ่ ควรเลือกใช้สายแลนแบบ Cat7 ความเร็วสูงสุด 10Gbps ที่มีการป้องกันสัญญาณรบกวนสูง หรือ Cat8 ความเร็วสูงสุด 40 Gbps ใช้ในระยะสั้น ๆ ประมาณ 30 เมตร เพื่อรองรับความเร็วสูงสุดและการเชื่อมต่อที่มีความหน่วงต่ำ

สถานที่ติดตั้งหรือสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
มี 2 ปัจจัยในการพิจารณา คือ สถานที่ติดตั้งสายแลนอินเตอร์เน็ตมีการรบกวนจากสัญญาณของเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่? และระยะทางของสายแลนกับอุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตต่าง ๆ ใกล้หรือไกลมากน้อยแค่ไหน? 

ในกรณีที่มีสัญญาณรบกวนของเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์มาก ควรเลือกใช้สายแลนแบบ STP (Shielded Twisted Pair) เพราะสามารถป้องกันสัญญาณรบกวน เช่น ในโรงงานหรือสถานที่ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก เป็นต้น แต่ถ้าบริเวณติดตั้งสายแลนไม่มีสัญญาณรบกวนใด ๆ ควรเลือกใช้งานแบบ UTP (Unshielded Twisted Pair) ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือสำนักงานทั่วไปก็เพียงพอแล้ว ในกรณีที่ระยะของสายแลนกับอุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่ออินเตอร์มีระยะไกลกัน อาจจะเลือกประเภทของสายแลนที่เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ไกลได้ เพราะการใช้สายที่ยาวเกินไปเพราะอาจทำให้การรับส่งสัญญาณไม่เสถียรและความเร็วลดลงได้

วัสดุที่ใช้ทำสายแลนอินเตอร์เน็ต
วัสดุที่ใช้ทำสายแลนในปัจจุบันที่นิยมกัน มีอยู่ 2 ชนิดก็คือทองแดง (Copper) ซึ่งมีคุณภาพการส่งสัญญาณที่ดีมากกว่าแต่มีราคาสูงกว่าอะลูมิเนียมเคลือบทองแดง (Copper Clad Aluminum) ซึ่งมีประสิทธิภาพน้อยกว่าทองแดง

เลือกซื้อสายแลนที่มีการรับประกันและการรับรองมาตรฐาน
การสายแลนที่มีการรับประกันจากผู้ผลิตเพื่อความมั่นใจในความทนทานและคุณภาพที่ดี นอกจากนั้นเพื่อความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ให้ตรวจสอบว่าสายแลนอินเตอร์เน็ต มีการรับรองมาตรฐาน TIA/EIA ที่เป็นชุดมาตรฐานทางโทรคมนาคมที่ได้รับการกำหนดโดยสมาคมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ร่วมด้วย จะช่วยให้คุณมั่นใจได้เลยว่าสายแลนที่คุณใช้นั้นมีคุณภาพดีและมีมาตรฐานอย่างแน่นอน

คุณภาพของหัวต่อ (Connectors)
คุณภาพของหัวต่อของสายแลนจะต้องเป็นแบบ RJ45 เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประกันความเสถียรและประสิทธิภาพของเครือข่าย โดยการเลือกหัว RJ45 ที่ทำจากวัสดุคุณภาพอย่างทองแดง เพื่อให้การนำสัญญาณมีประสิทธิภาพหรือวัสดุหุ้มที่ทำจากพลาสติกคุณภาพสูงเพื่อความทนทานต่อการใช้งานและไม่เปราะบาง รวมถึงการออกแบบให้สามารถเสียบเข้ากับพอร์ต RJ45 ได้แน่นหนา มีการรับรองตามมาตรฐานสากล เช่น TIA/EIA-568, ISO/IEC 11801 คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยลดปัญหาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ไม่เสถียรได้

สำรวจอุปกรณ์และเครื่องมือในการติดตั้งระบบสายแลนอินเตอร์เน็ตให้ครบถ้วน
การติดตั้งระบบสายแลนต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือ มีดังนี้

• สายแลน (LAN) คือสายที่ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
  
• หัวต่อ RJ45 คือหัวต่อที่ใช้เชื่อมสายแลนกับอุปกรณ์
  
• อุปกรณ์เครือข่าย (Networking Devices) ได้แก่ Switch (ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์หลายๆ ตัวในเครือข่ายเดียวกัน), Router (เครื่องมือกระจายตัวสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ที่รอคอยรับสัญญาณอินเตอร์เน็ต) และ Modem (คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต)
  
• Patch Panel คือแผงเชื่อมต่อสำหรับการจัดระเบียบสายแลนในตู้แร็ค
  
• ตู้แร็ค (Rack Server) ใช้สำหรับจัดเก็บและจัดระเบียบอุปกรณ์เครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์
  
• สายรัดเคเบิล (Cable Ties) ใช้สำหรับจัดระเบียบสายแลนให้เรียบร้อย
  
• ฉนวนป้องกันไฟฟ้า (Insulation Tape) ใช้หุ้มส่วนที่เชื่อมต่อเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

ประโยชน์ของการเลือกใช้สายแลนอินเตอร์เน็ต ที่เหมาะสมกับการใช้งาน

• ประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลที่ดี การใช้สายแลนที่มีคุณภาพและรองรับความเร็วตามที่ต้องการจะช่วยให้การรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาความล่าช้าและความไม่เสถียรของสัญญาณได้ 
  
  
• ช่วยลดปัญหาการรบกวนของสัญญาณจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ จึงทำให้การรับส่งข้อมูลมีความเสถียรและชัดเจนมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลหรือการถูกดักจับสัญญาณ ทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยมากขึ้น
  
  
• การเลือกสายแลนอินเตอร์เน็ตที่เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและการเปลี่ยนสายบ่อยครั้ง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้

เพราะในปัจจุบันเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยอินเตอร์เน็ตมีความสำคัญกับวิถีของคนเราเป็นอย่างมา ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน, การเรียน, ความบันเทิงหรือธุรกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ฉะนั้น การมีอินเตอร์เน็ตเพื่อใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการสายแลนอินเตอร์เน็ตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและเหมาะสมกับการใช้งาน จึงตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องของประสิทธิภาพ, ความเสถียร, ความปลอดภัย และความคุ้มค่าในระยะยาว ช่วยให้ระบบเครือข่ายทำงานได้อย่างราบรื่นสูงสุดนั่นเอง

โดย On-Tech Engineering & Trading Co., Ltd เรามีจำหน่ายสาย LAN ที่มีคุณภาพจาก LS Cable ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตสายทองแดงกว่า 60 ปีและผลิตสายแลน UTP ให้กับหลายแบรนด์ของในประเทศแถบยุโรป คุณจึงสามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้สายแลนอินเตอร์เน็ตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานอย่างแน่นอน 

นอกจากนี้เรายังจำหน่ายสายไฟเบอร์ออฟติก อุปกรณ์ไฟเบอร์ออฟติก ท่อร้อยสายชนิดต่าง ๆ หรือหัวต่อทองแดง สายแลน ราคาคุ้มคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น สายแลน cat6, cat5e, cat7 รวมถึงตู้ odf, pull box กัลวาไนซ์, maxcell, opticell ฯลฯ โดยเรายินดีให้คำแนะนำทางเทคนิค รวมถึงจำหน่ายและจัดส่งให้คุณได้ในทันที

สนใจสั่งซื้อสายแลนอินเตอร์เน็ต คุณภาพดี สอบถามราคาสายแลนเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-279-7337, 02-279-7361 | อีเมล : ontech.mail2557@gmail.com, info@ontech.co.th